Wednesday, July 31, 2024

สิงห์บุรี จัดเทศกาลสักการะพระพรหม ใหญ่ที่สุดในโลก 8-11 ส.ค. นี้

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 17:00 น. ณ​ เทวาลัยพระพรหม อำเภอเมืองจังหวัดสิงห์บุรี นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในงานแถลงข่าวเทศกาลสักการะพระพรหม​สิงห์บุรี  โดยมีนายณัฏฐ์กร​ ศิริผ่องแผ้ว​ นายอำเภอเมืองสิงห์บุรี​ ร้อยโทสิทธิชัย​ ตัณฑสิทธิ์​ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสิงห์บุรี​ พันตำรวจเอกประเสริฐ​ หนูดี​ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี นายวิจิตร​ เลิศไพบูลย์วงศ์ ประธานบริษัทประชารัฐรักษามัคคี​ (วิสาหกิจเพื่อสังคม)​ จำกัด​ และนางอารีย์​ ฤกษ์​สภาพ​ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลพบุรี​ (ททท.ลพบุรี)​ ร่วมการแถลงข่าว
สำหรับงานกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณเทวาลัยพระพรหม​ ตำบลม่วงหมู่​ อำเภอเมือง​ จังหวัดสิงห์บุรี​ โดยมีกิจกรรมภายในงานที่น่าสนใจต่างๆ​ ในแต่ละวัน​ ดังนี้​
▫️วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2567
-  ชมกิจกรรมการแสดงประกอบแสง สี เสียง มิวสิคัลผ่านสื่อผสมชุด  “ พระพรหมสิงห์บุรี  บารมีแห่งฟ้า ทั่วหล้าเป็นสุข ” ณ บริเวณเวทีกลาง
-  ชมการแสดงรำวงย้อนยุค วงปลาตะเพียนแบนด์
▫️วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
-  พิธีเปิดงานเทศกาลสักการะพระพรหม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
-  ชมกิจกรรมการแสดงประกอบแสง สี เสียง มิวสิคัลผ่านสื่อผสมชุด “ พระพรหมสิงห์บุรีบารมีแห่งฟ้า ทั่วหล้าเป็นสุขื” ณ บริเวณเวทีกลาง
-  ชมการแสดงศิลปินนักร้อง กานต์ ทศน
▫️ วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567
-  กิจกรรมประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง “พรหมลิขิต”
-  ชมการแสดงศิลปะพื้นบ้านลิเก คณะเอิร์ธโฟร์เอส

▫️ วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2567
-  กิจกรรมประกวดภาพถ่ายเชิงท่องเที่ยว
-  ชมการแสดงศิลปะพื้นบ้านลิเก คณะพรเทพ พรทวี
       ซึ่งงานจัดขึ้น ที่บริเวณเทวาลัยพระพรหม ถนนสายเอเซีย หรือทางหลวงหมายเลข 32  ขอเชิญชวนประชาชนมาเที่ยวงานเทศกาลสักการะพระพรหมสิงห์บุรี ซึ่งมีองค์พระพรหมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
//สรวัชร สรรเพ็ชร์ รายงาน//

เรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี จัดพิธีเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เรือนจำ

      วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นประธานในพิธีเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ โดยเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ผลผลิตที่เกิดจากการฝึกอบรมทักษะอาชีพให้กับผู้ต้องขังในสาขาต่าง ๆ รวมถึงเป็นสถานที่จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือของผู้ต้องขัง ก่อให้เกิดรายได้ของผู้ต้องขัง จากการมีส่วนร่วมในการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเงินปันผล สำหรับใช้จ่ายขณะต้องโทษ รวมทั้งสังคมชุมชนได้รับรู้ และอุดหนุนผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างการยอมรับ และให้โอกาสในการกลับคืนสู่สังคมโดยปกติสุข สามารถประกอบสัมมาอาชีพหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ 
ในการนี้นายวิรัตน์ พรมน้อย ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดงาน และการดำเนินงานของเรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี ตามนโยบาย 8 มิติ ยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลงการบริ หารงานราชทัณฑ์ โดยนายสหการณ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้กล่าวชื่นชม การดำเนินงานดังกล่าว ให้โอวาท และตัดริบบิ้นเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เรือนจำ รวมทั้งเดินเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของเรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี บูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากเรือนจำต่างๆ บูธจากส่วนราชการที่มาจัดแสดงประชาสัมพันธ์การดำเนินงาน และบูธจากภาคเอกชนที่มาจัดแสดงภายในงาน โดยมีผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน ภายในเขต 1 หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสิงห์บุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำองค์กรภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน ณ เรือนจำจังหวัดสิงห์บุรี
//สรวัชร สรรเพ็ชร์ รายงาน//

“พิพัฒน์”มอบเลขาฯ “อารี” เยี่ยมสถานประกอบกิจการ จ.สมุทรสาคร

 หารือแนวทางพัฒนาความปลอดภัยในการทำงานอย่างยั่งยืน พร้อมเผยอัตราการเสียชีวิตจากการทำงานลดลง 14%
              วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมาย นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เยี่ยมชมการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีผู้บริหารของบริษัทฯ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นางวัชรี​ มากหวาน​ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติ 
             นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้รณรงค์ให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมในการทำงานที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ประกอบกับกระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มีการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานตามระเบียบวาระแห่งชาติ “แรงงานปลอดภัยและสุขภาพอนามัยดี” โดยมีเป้าหมายหลักในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการและบูรณาการในทุกภาคส่วนเพื่อให้การดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของประเทศเป็นไปตามเจตนารมณ์ในการลดการประสบอันตรายจากการทำงานที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2567 อัตราการประสบอันตรายจากการทำงานกรณีร้ายแรงลดลงร้อยละ 4.00 อัตราการเสียชีวิตจากการทำงานลดลงร้อยละ 14.00 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด อย่างไรก็ตาม การที่จะไปสู่ผลสำเร็จตามเป้าหมายนั้นย่อมเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนซึ่งถือเป็นฟันเฟืองหลักที่จะนำนโยบายลงสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง ผมขอขอบคุณบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ให้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิต แนวทางการบริหารจัดการด้านแรงงาน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงาน การลดของเสียที่เกิดจากขั้นตอนการผลิตให้เป็นศูนย์ (Zero Discharge) และกลยุทธ์ความยั่งยืน (Sea Change) ของสถานประกอบกิจการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางในการบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการลูกจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้นำไปปรับเปลี่ยนและพัฒนาการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
             นางวัชรี​ มากหวาน รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการผลิตและจำหน่าย อาหารทะเลแช่แข็ง แช่เย็นและบรรจุกระป๋อง มีลูกจ้างจำนวน 7,901 คน เป็นสถานประกอบกิจการที่โดดเด่นด้านการบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐาน ISO 45001 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) รวมทั้งมีอัตราการประสบอันตรายจากการทำงานลดลงอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนมีการบริหารจัดการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยม ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐาน ISO 14001 อุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 3 และการลดของเสียที่เกิดจากขั้นตอนการผลิตให้เป็นศูนย์ เป็นต้น

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จัด “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 42 จังหวัดนครราชสีมา

มุ่งช่วยเหลือประชาชน ปลดภาระผู้ค้ำ ขยายระยะเวลาการผ่อน ปรับลำดับการชำระสถาบันการเงิน ผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี
(วันที่ 31 กรกฏาคม 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โคราช ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซนทรัลโคราช ตําบลในเมือง อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ว่า เมื่อเวลา 10.30 น. พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 42 จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมในระดับพื้นที่ และสถาบันทางการเงินภาคีเครือข่าย และประชาชน เข้าร่วมกว่า 1,000 คน จาก 32 อำเภอ ในจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาส​นี้ พันตํารวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า หนี้ครัวเรือน คือทุกข์ของประชาชน รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน อย่างเร่งด่วน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยฯ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนผู้เข้าร่วมงานได้รับประโยชน์ในกรณีก่อนฟ้อง กยศ. ทั้งปลดภาระผู้ค้ำ ขยายระยะเวลาการผ่อนปรับลำดับการชำระสถาบันการเงินอื่น ๆ ผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือน งดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไขปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษาจะได้รับการผ่อนชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาดลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี 
โดยในจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนจะประสบปัญหาสภาวะหนี้สินครัวเรือน และหนี้สินการเกษตร จึงมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ซึ่งภายหลังจากที่เข้าร่วมแก้ไขหนี้สินให้เป็นไปอย่างยั่งยืนและไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก 

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย​ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และคณะ ได้ร่วมพบปะพูดคุยและให้กำลังใจประชาชนที่มาร่วมไกล่เกลี่ยฯ ภายในงาน 
ทั้งนี้​ สำหรับการจัดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ในครั้งนี้ ได้เชิญลูกหนี้เข้าร่วมงาน จำนวน​กว่า 5,154 ราย แยกเป็นก่อนฟ้อง จำนวน 2,600 ราย และหลังศาลมีคำพิพากษา จำนวน 2,554 ราย รวมทุนทรัพย์ จำนวน​กว่า 1,305 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดีหรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และรู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน โดยลูกหนี้จะได้รับโปรโมชั่น นอกจากจะไม่ถูกฟ้องคดี ไม่ถูกยึดทรัพย์ ไม่ถูกขายทอดตลาดแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดจบหนี้ ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่างวดและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย นอกจาก​นี้ ภายในงานมีการให้บริการต่าง ๆ มายมาย เช่น การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย และการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงิน การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และการให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท จำนวน 11 สถาบัน ประกอบด้วย 1)​ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2)​ ธนาคารออมสิน และธนาคารออมสินเขตควบคุมและบริหารหนี้ภาค 13 3)​ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และสาขาจังหวัดนครราชสีมา 4)​ ธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) และสาขาจังหวัดนครราชสีมา 5)​ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดนครราชาสีมา 6)​ บริษัท เจเอ็มทเน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส จำกัด 7)​ บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จํากัด 8)​ บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ เค จํากัด 9) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10) สํานักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา และ 11)​ สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา 

โครงการแข่งขันจักรยานขาไถ (Balance Bike ) เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เทศบาลตำบลสามง่าม  จัดโครงการแข่งขันจักรยานขาไถ (Balance Bike) เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอดอนตูม นายสมรัก มีใจดี นายกเทศมนตรีตำบลสามง่าม คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการในเขตอำเภอดอนตูม กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน  และพนักงานเทศบาลตำบลสามง่าม เข้าร่วมโครงการ 
สำหรับโครงการนี้จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ปลูกฝังความมีน้ำใจนักกีฬา  ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเพื่อเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีน้องๆ หนูๆ ตัวแทนจากอำเภอต่างๆในจังหวัดนครปฐมร่วมการแข่งขัน ณ ศูนย์กีฬาและนันทนาการเทศบาลตำบลสามง่าม บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

สพอ.ทับสะแก ขับเคลื่อนกิจกรรมริเริ่มสร้างสรรค์ชุมชนธรรมาภิบาล ณ บ้านหัวเขา หมู่ที่ 10 ตำบลห้วยยาง

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านหัวเขา หมู่ที่ 10 ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางรัตนากร ศรวัฒนา พัฒนาการอำเภอทับสะแก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอทับสะแก ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและประชาชนบ้านหัวเขา ม.10 ตำบลห้วยยาง ร่วมขับเคลื่อนโครงการการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนธรรมาภิบาล กิจกรรมย่อยที่ 2 กิจกรรมริเริ่มสร้างสรรค์ชุมชนธรรมาภิบาล ร่วมสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ 
โดยร่วมเดินรณรงค์ต้านทุจริต ปลูกจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี รวมถึงส่งเสริมการให้ประชาชนริเริ่มสร้างสรรค์ชุมชนธรรมาภิบาล สร้างความโปร่งใสและป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ จิตอาสาปลูกพืชปันผล(ปัญหาที่อยากแก้ ความดีที่อยากทำ)  ปลูกต้นมะม่วง ณ ศูนย์เด็กเล็กบ้านหัวเขา พร้อมทั้งแจกเมล็ดพันธ์ผัก มุ่งเน้นให้เครือข่ายผู้นำ กลุ่ม/องค์กร รวมเป็นพลังในการป้อง-ปราบปรามการทุจริต สร้างความโปร่งใสหมู่บ้าน ติดตั้งป้ายรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ถุงผ้า ตลอดจนกล่องรับเรื่องร้องเรียน สร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ
//////////////////////////////
ข่าว    ณัฐธภพ พันสาย    /    จ.ประจวบคีรีขันธ์    0649646443

CP LAND ชวนร่วมทายเพื่อนบ้านคนใหม่ ดีเดย์ 7 สิงหาคม 2567

31 กรกฎาคม 2567 – บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ชวนทายเพื่อนบ้านคนใหม่ ที่จะมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของ CP LAND บอกเล่าผ่านโฆษณาชุดใหม่ #สุขจริงทุกจินตนาการ ของ CP LAND  จะเป็นใครกันแน่ ดีเดย์ พบคำตอบพร้อมกันในทุกช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ของ CP LAND วันที่ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 9.09 น.

Facebook : CPLAND
IG : CPLAND.Official
Youtube : CPLANDOfficial
Tiktok : CPND.Official

#CPLAND #ซีพีแลนด์ #CPLANDคุณภาพเพื่อทุกชีวิต #คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #AccessibleCommunitiesforLife  
#สุขจริงทุกจินตนาการ #ปั้นฝันเป็นจริง #ความสุขเดินทางได้
เกี่ยวกับ บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน)
ซี.พี. แลนด์ หรือ CP LAND ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2531 ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ประกอบด้วย 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจที่พักอาศัย บ้าน คอนโดมิเนียม 2. ธุรกิจอาคารสำนักงาน (ส่วนกลางและภูมิภาค) 3. ธุรกิจโรงแรม 4. ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 5. ธุรกิจบริหารอาคาร 6. ธุรกิจพลังงาน 7. ศูนย์ประชุมไคซ์ – KICE ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ข้อมูลเพิ่มเต http://www.CPLAND.co.th
ขอขอบพระคุณในการอนุเคราะห์เผยแพร่ข่าวสาร ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ         
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์องค์กร บริษัทซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน)
คุณชุตินันท์ รวมพลังเอก (ชุ)          M: 095-365-2664          E: Chutinan@cpland.co.th  
คุณธนพล ตั้งสิริสุธีกุล (เจ)            M: 065-054-2959          E: Thanapol@cpland.co.th
คุณสนีนาฏ นามวงษ์ก) M: 0966359963            E: Sneenad@cpland.co.th 
คุณฉัตร์นิพัฒน์ สุนทรนันท์ (โจ้)      M:0629799514            E:Chatniphat@cpland.co.th       

พิษณุโลก พ่อค้าวัยหนุ่ม บอกยังไม่รู้เรื่องเงินดิจิตอลอะไรเลย ส่วนชาวไร่ชาวสวนที่มาจับจ่ายตลาดสด บอก 1 ส.ค.นี้ ลงทะเบียน แต่เชื่อว่า การใช้คงยุ่งยาก

ขณะที่เซียนผู้รับเหมาบอก อย่าเพิ่งไปให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ โครงการยังไม่แน่นอน ผวารั่วถึงแก๊งคอลฯ ส่วนคนงานต่อก่อสร้างบอก ไม่รู้เลย เงินดิจิตอล  
  วันนี้ (31 กรกฎาคม 2567) ตามข้อมูลข่าวสารโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไปนั้น ส่วนร้านค้าสามารถลงทะเบียนตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 นั้น 
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่าหลายคนยังไม่ค่อยรู้โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต นิ่งและเพิกเฉย มีบางส่วนที่พอให้ข้อมูลบาง อาทิเช่น 


นางน้ำฝน ผลเกิด อายุ 64 ปี อาชีพชาวไร่ชาวสวน บอกว่า ดูแล้ว..เงินดิจิทัลวอลเล็ต  จะยุ่งยาก ต้องใช้มือถือ แม้ว่า ตนก็มีมาร์ทโฟน ทราบเพียงว่า จะเริ่มสมัครลงทะเบียนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ แต่ก็ไม่รู้ที่ไหน คาดว่าน่าจะอยู่โทรศัพท์ คิดว่า ถ้าใช้คงยุ่งยากมาก  มีขั้นตอน หลักการเยอะ 

นาย คริสมาสต์ มหาพล หนุ่ม อายุ 23 ปี บอกว่า ตนเรียนจบปวส ที่ อ.เสนา จ.อยุธยา เป็นพ่อค้าขายอาหารอยู่ที่พิษณุโลก ยังไม่รู้โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต  ไม่ได้ติดตามว่า เงินดิจิทัลเป็นอย่างไร ทราบเพียงว่า สามารถซื้ออาหาร อาทิ น้ำมัน, น้ำตาล ได้  
ขณะที่บรรดาหนุ่มๆทำงานก่อสร้าง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า ไม่รู้จักเงินดิจิทัลวอลเล็ต ลงทะเบียนเมื่อไร ก็ยังไม่เข้าใจ เป็นคนงานอยู่ที่วัดฯ ไม่มีสมาร์ทโฟน  ส่วนจะซื้ออะไรได้นั้นก็ไม่รู้  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะซื้อพระเครื่องได้หรือไม่ หนุ่มๆ ก่อสร้างก็บอก ถ้าเขา(รัฐ) บอกไม่ได้ ก็ซื้อไม่ได้ บอกว่า ได้ ก็คือ ได้  
สำหรับทัศนะ”ผู้รับเหมา” เปิดเผยว่า  เงินดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ชัดเจน ตนมองว่า อย่าเพิ่งไปให้ข้อมูลหรือกรอกข้อมูลใดๆ หวั่นว่าจะเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ผวารั่วไปถึงแก๊งคอลเซ็นต์เตอร์  ตนยังไม่มั่นใจ จึงก็เตือนๆไปอีกหลายคนว่า โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่แน่นอน อย่าเพิ่งไปให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆไป  
//ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว//

สิงห์บุรี / พิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดหน้าพระธาตุ รวมใจทำบุญกฐินสามัคคี สืบสานพุทธศาสนาอย่างยิ่งใหญ่

วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น. ณ วัดหน้าพระธาตุ หมู่ที่ 1 ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ได้จัดพิธี ทอดกฐินสามัคค...