Tuesday, December 31, 2024

พิษณุโลก หลานฆ่าน้า 2 ศพ ขี่ จยย.หลบหนีไม่รอด โดนสกัดจับพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม

วันที่ 31 ธ.ค.2567 เวลา 08.00 น.รับแจ้งเหตุ เวลา 08.02 น.ร.ต.อ.ชานนท์ สมฤทธิ์ พนักงานสอบสวน(ร้อยเวร) รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตบริเวณถนนสายเลี่ยงเมืองพิษณุโลก ทางเข้าวัดตาลสุวรรณ ม.4 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบและรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ธัชพงศ์  วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก 
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ศพฐ.6 และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ตรวจสถานที่เกิดเหตุ
และร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพผู้ตายในที่เกิดเหตุ
พบผู้เสียชีวิต 1.นายนกเล็ก  นิลทอง อายุ 60 ปี ลักษณะคร่อมรถจักรยานยนต์เสียชีวิตอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ สภาพศพถูกยิงตามร่างกาย  ใกล้เคียงศพปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 4 ปลอก  ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายนางแสงเดือน นิลทอง อายุ 61 ปี เสียชีวิตขณะหน่วยกู้ชีพกำลังให้การช่วยเหลือ
สำหรับมือปืนรายนี้ คือ  นายทินภัทร หรือทิน  ต่อยนึ่ง อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 180 หมู่ 3 ตำบลบ้านป่า อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เป็นหลานชายนายนกเล็ก นิลทอง ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นน้องชายมารดาของนายทินภัทร หลังก่อเหตุมือปืนได้ขี่จักรยายนยนต์หลบหนีไป ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก สกัดจับได้และนำตัวส่ง สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อสอบสวนหาสาเหตุและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Bodyslam ระเบิดความมันส์ Pattaya countdown คืนที่ 2 สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวทะลักหาดพัทยาอุ่นใจ ตร.ทท.ดูแลความปลอดภัยเต็มที่

วันที่ 30 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน Pattaya Countdown 2025 คืนที่ 2 กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาชื่อดังที่ได้รับความนิยม ทุกปีว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาร่วมการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีกันอย่างสนุกสนาน
โดยในวันนี้มีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง เริ่มด้วย โจอี้ ภูวศิษฐ์, เจ เจตริน, Jeff Satur, Bodyslam และปิดท้ายด้วย UrboyTJ ซึ่งพบว่านักท่องเที่ยวแห่กันมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก 
อย่างไรก็ดี ในกิจกรรมได้รับการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวที่คอยดูแลผู้เข้าร่วมงาน ก่อนในวันที่ 31 ธ.ค.67 จะมีพิธีนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ปี 2568 ในช่วงเที่ยงคืนเข้าสู่วันใหม่ด้วย
//เก่ง ณ สงขลา รายงาน//

พิษณุโลก ผู้ว่าฯ 2 จังหวัดแถลงข่าว “ ชวนเที่ยวภูลมโลหุบเขาสีชมพู”

คาดมกราคม 2568 บานสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมตรวจ
จุดลานกางเต็นท์ ณ.อุทยานฯภูหินร่องกล้า
                 วันนี้  31 ธันวาคม 2567
นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 นายทศพร ปภากุล ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สบอ.11 นายลำยอง ศรีเสวก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าร่วมแถลงข่าวเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ “ภูลมโล” เย็นวานนี้ 30 ธ.ค.67 ณ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 
ซึ่งดอกนางพญาเสือโคร่งกำลังแทงช่อดอกให้เห็นแล้ว คาดจะเบ่งบานสวยงามตลอดเดือนมกราคม 2568 บน “ภูลมโล”พื้นที่รอยต่อของสามจังหวัด พิษณุโลก เลย เพชรบูรณ์ ซึ่งการขึ้นไปเที่ยวชมบนยอดเขาภูลมโล สามารถขึ้นได้ทั้งจากทางฝั่ง จ.เลย ที่ บ้านกกสะทอน ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย และทางฝั่ง จ.พิษณุโลก ที่ “บ้านร่องกล้า” ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ประตูสู่ภูลมโล” ทางฝั่งพิษณุโลก เพราะเป็นจุดแวะพักและจุดต่อรถเพื่อขึ้นไปยังภูลมโลทางฝั่งภูหินร่องกล้า
ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือน คือความงดงามของ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ที่พร้อมใจกันผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่ง แหล่งชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ภูลมโล จังหวัดเลย เป็นหนึ่งในเป้าหมายหรือแลนด์มาร์กสำคัญ เพราะเป็นจุดที่มีดอกนางพญาเสือโคร่งเยอะที่สุดในประเทศไทย เมื่อบานสะพรั่งพร้อมกัน ทั่วทั้งหุบเขาก็จะเหมือนถูกย้อมไปด้วยสีชมพู กลายเป็นทัศนียภาพที่งดงามสร้างความประทับใจ ถ้าหากนักท่องเที่ยวมาทางฝั่งจังหวัดเลย สามารถใช้รถบริการของชมรมท่องเที่ยวกกสะทอน หรือจุดคิวรถที่อยู่บริเวณฝั่งกกสะทอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า จุดเที่ยวชมภูหินร่องกล้าทางอุทยานชาติภูหินร่องกล้า มีประกาศไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปบนภูลมโล เนื่องจากสภาพเส้นทางลาดชัน หากไม่ชำนาญในเส้นทางอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังเป็นการจัดระเบียบทางด้านการจราจรไม่ให้แออัด และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติ 
อุทยานภูหินร่องกล้าจึงจัดให้มีรถบริการของชุมชนท้องถิ่น หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาทางฝั่งอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สามารถใช้รถบริการของชุมชน ซึ่งจะจอดอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หรือจะขึ้นไปใช้รถบริการของชุมชนบ้านร่องกล้า 
อุทยานฯภูหินร่องกล้าขอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสความงามของแหล่งชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ “ภูลมโล” ตลอดเดือนมกราคม 2568 จะบานสะพรั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่าฯเลย ผู้ว่าฯ-พิษณุโลก  ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ  หน.อช.ภูหินร่องกล้าได้เดินตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการอำนวยความสะดวกดูแลช่วยเหลือและให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ลานกางเต็นท์ และแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าซึ่งเป็นไปอย่างปกติ นักท่องเที่ยวคักคักหนาแน่น
ล่าสุดตำรวจท่องเที่ยวพิษณุโลกสำรวจเส้นทาง-วังทอง-บ้านแยง นครไทย-ภูหินร่องกล้า-บ้านร่องกล้า-ภูลมโลพบปริมาณรถหนาแน่น แต่ไม่มีติดขัด นักท่องเที่ยวคึกคักทุกสถานที่ การเดินไปชมหุบเขาสีชมพู คาดจะบานสะพรั่งเต็มที่กลาง ม.ค.68 และคงบานอยู่ 1 เดือน หากใครสนใจควรวางแผนการเดินทาง นับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.68 จะไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นได้ เนื่องจากการจราจรจะเริ่มหนาแน่น และเส้นทางไม่เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน เพื่อความสะดวกและปลอดภัยจึงต้องใช้บริการรถของชุมชน จะเหมาหรือจะรอรถเต็มหารเฉลี่ยก็ได้ ขึ้นได้ที่บ้านใหม่ร่องกล้า (อยู่เหนือที่ทำการอช.ภูหินร่องกล้าใช้เวลาเดิน 20 นาที) ซึ่งเส้นทางนี้สะดวกที่สุด ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 30 นาทีก็ถึงภูลมโล
ขณะที่อีกเส้นทางหนึ่ง จากจังหวัดเลย ใช้บริการรถของชุมชนเช่นกัน ติดต่อที่ อบต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย เส้นทางไกลกว่าแต่สะดวกน้อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ
//ป๊อปกองปราบ ภาพ-ข่าว//

สุพรรณบุรี วันหยุดยาวสายมูนับพันแห่เข้าวัดเดิมบางขอพรวันเปิดทรัพย์ เจิมมือเปิดดวง ส่งท้ายปี

ที่วัดเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี  สาธุชนจำนวนมากแห่เดินทางมาไหว้ขอพร หลวงพ่อแบน  ปาสาทิโก  อดีตเจ้าอาวาสวัดเดิมบาง  บูรพาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และหลวงพ่อกวย  เกจิอาจารย์ผู้โด่งดัง และบรรดาสายมู กว่า 1,000 คน มาร่วมขอพรกับท้าวเวสสุวรรณหน้าทองคำ องค์แรกของของประเทศไทย และพระนารายณ์ทรงครุฑ 
 โดยครูบาวชิริล  ได้อัญเชิญลงมาประดิษฐานคู่กัน  เพื่อให้สาธุชน ร่วมสวดมนต์คาถาชัยชนะ  ถวายเครื่องบวงสรวง  และถวายพวงมาลัยดาวเรือง เพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่า  รับสิริมงคลปีใหม่  โดยมีการจุดธูปตัวเลขมงคล  ปรากฏเลขธูป เป็นเลข 958  บรรดานักเสี่ยงโชคต่างรุมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนำไปเสี่ยงโชคหวังรวย ในงวดนี้
จากนั้นได้ทำการเจิมมือ เปิดดวงเศรษฐี กับครูบาวชิริล  ภัททฺมุนี  มีทั้งสาธุชนคนไทยและต่างชาติที่เคารพศรัทธา แห่มาเจิมมือเปิดดวงเศรษฐีกันอย่างเนืองแน่น บางคนนำโฉนดที่ดินมาเจิมเพื่อหวังพึ่งบารมีให้ขายได้ไว้ๆ พร้อมกับบูชาเทียนหนุนดวง  เพื่อทำการจุดในคืนส่งท้ายปี โดยผู้ลงเจิมมือ เห็นเลข 810 บนฝ่ามือ นอกจากนี้ทางวัดเดิมบาง ยังเปิดให้บรรดาสาธุชนร่วมจองวัตถุมงคลประจำปี 2568   หลวงพ่อแบน - ท้าวเวสหน้าทองคำ  ซึ่งได้รับความสนใจจากสาธุชนต่างพากันเดินทางมาจองกันอย่างล้นหลาม  

หลังจากเดือนก่อนมี สาวสิงห์บุรี วัย 15 ปี สวมใส่เลสที่ข้อมือแล้วประสบอุบัติเหตุ รถชนเหยียบศรีษะ  ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  ทำให้แคล้วคลาด ปัดเคราะห์หนักให้เบาลง จนมีผู้สนใจเดินทางมาจองเป็นจำนวนมาก  และยังมี  นางสาวนารี  จูงาม  อายุ 41  ปี  เดินทางมาจากสิงห์บุรี  นำนางรำมารำถวาย 9 ยอด  หลังมาขอพรให้ขายที่ดินได้แล้วประสบความสำเร็จ ขายที่ได้จำนวน  8ไร่  ราคา 1.2 ล้านบาท  จึงเดินทางมาแก้บนในวันนี้ด้วย
//ภัทรพล  พรมพัก    สุพรรณบุรี//

Monday, December 30, 2024

ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เตือนยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองปีใหม่ ผิดกฎหมายมีโทษทั้งปรับทั้งจำ

พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก มีความกังวลในกรณีที่มีเหตุการณ์สูญเสียชีวิตจากเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า เพื่อเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นความผิด และมีโทษตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  
พ.ต.อ.ธัชพงศ์ กล่าวอีกว่า หากกระสุนตกใส่หรือทะลุหลังคาบ้านเรือน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็จะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” 
"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเหตุ บุคคลที่มีพฤติกรรมดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด ไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งมายังสายด่วน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 สายด่วน 1599 และสภ.เมืองพิษณุโลก 055-225-022 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อความสงบสุข ปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จะได้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข" ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าว

รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่เมืองพัทยา กำชับกวดขันมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 30 ธ.ค.67 ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมกำชับและติดตามการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย การบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยมี พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม 
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ รอง.ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามมาตรการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด ตลอดจนข้อกำชับสั่งการและข้อห่วงใยของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ตระหนักและให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบเรียบร้อย ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ตลอดจนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และอำนวยความสะดวกการจราจรให้แก่ประชาชน ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบฯ ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้น พล.ต.อ.ประจวบฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามการปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองพัทยา กรมเจ้าท่า หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ พัทยา กต.ตร.สภ.เมืองพัทยา อส.ตร.สภ.เมืองพัทยา และภาคเอกชนในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ในมาตรการป้องกันปราบปรามและระมัดระวังตนเองจากอาชญากรรม ตลอดจนข้อห่วงใยแนะนำประชาชนและนักท่องเที่ยว สร้างการมีส่วนร่วมของภาครัฐและเอกชน ในการบริหารจัดการยกระดับความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่
อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ย่านถนนคนเดินพัทยา (Pattaya Walking Street) 
สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพร้อมการปฏิบัติในช่วง 10 วันควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 อย่างมีประสิทธิภาพ มีการตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 126 จุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 888 นาย , จุดสกัด 99 จุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 456 นาย , ชุดเคลื่อนที่เร็ว 142 ชุด พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 598 นาย รวมกำลังพลทั้งสิ้น 1,942 นาย พบการปฏิบัติตามมาตรการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับการจัดงาน PATTAYA COUNTDOWN 2025 ซึ่งจะมีพื้นที่การจัดงาน บนชายหาดพัทยา จากหน้าโรงแรมฮาร์ดร็อก - แยกนิภาลอดจ์ เนื้อที่ 18,000 ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 23,000 คน ได้เตรียมพร้อมกำลังพลหน่วยร่วมปฏิบัติ ประกอบด้วย สภ.เมืองพัทยา, ภ.จว.ชลบุรี, ตำรวจท่องเที่ยว, อำเภอบางละมุง, ฝ่ายเทศกิจ, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และหน่วยงานอื่น ๆ รวม 611 นาย จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ภ.จว.ชลบุรี (ไดนามิก) หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ชลบุรี และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.2 รวม 42 นาย จัดชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ 15 นาย ประจำจุดสูงข่ม 4 นาย และประกอบแผนจุดก้าวสกัดจับ 40 นาย เจ้าหน้าที่ EOD 4 นาย เพื่อตรวจพื้นที่จัดงานก่อนเริ่มงาน และประจำกองอำนวยการร่วม จนกว่างานจะเสร็จสิ้น มีการใช้กล้อง CCTV ในพื้นที่จัดงาน 16 ตัว รถโมบาย 1 คัน กล้องชายหาด 48 ตัว รวมกล้อง CCTV ทั้งหมดในพื้นที่ 5,061 ตัว พร้อมด้วยชุด Anti Drone บินโดรนตรวจปริมาณนักท่องเที่ยว การจราจร ตรวจจับโดรนไม่ได้รับอนุญาต และลักลอบจำหน่ายพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง 10 นาย เรือตรวจการรักษาความปลอดภัยทางน้ำ 8 ลำ พร้อมกำลัง 31 นาย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการปฏิบัติรองรับเหตุวัตถุต้องสงสัย เหตุระเบิด เหตุอาวุธปืน เพลิงไหม้หรือวางเพลิง บุคคลก่อกวน อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ต้องสงสัย ตลอดจนเหตุไฟฟ้าช็อต หม้อแปลงระเบิด และบุคคลวิกลจริต เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมปฏิบัติ
พล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ต่างทุ่มเท เสียสละ และตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ พร้อมระดมสรรพกำลังช่วยเหลือประชาชน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อย ลดอุบัติเหตุทางถนนและอำนวยการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสุข ยกระดับความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นของขวัญมอบให้กับประชาชนและสังคมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 
//เก่ง ณ สงขลา รายงาน//

สิงห์บุรี / รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรีเป็นประธานในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568

วันที่ 30 ธันวาคม 2567 เวลา 09.30 น. ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.จักรภพ  สุคนธราช ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี มอบหมายให้พ.ต.อ.ธีรวัจน์  ขจรเกียรติภาส รอง ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี (สห 4) พ.ต.อ.ปฏิกรณ์  หาญหัตถกิจ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี พ.ต.ท.กิตต์ชยุตท์  เจนจิตร์ปิยวัช รอง ผกก.ป.สภ.บางระจัน ประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 และรายงาน (เพิ่มเติม) การเกิดอุบัติเหตุใหญ่ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 01.37 น. รถบรรทุกเสียหลักตกลงข้างทางและเกิดเพลิงไหม้ที่ตัวรถ เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายเอเชีย (ทล.32) กม.92 ขาล่อง ณ ห้องประชุมนายทองแสงใหญ่ ชั้น 3  ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี (หลังใหม่) โดยมี พ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในการประชุมดังกล่าว และมี พ.ต.อ.ธีรวัจน์  ขจรเกียรติภาส รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในการประชุมของจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
//นายสรวัชร สรรเพ็ชร์ รายงาน//

"พิพัฒน์" เสียใจคนไทยเสียชีวิตเครื่องบินเกาหลีไถลรันเวย์

 ‘ปลัดบุญสงค์’สั่งการ 5 เสือแรงงานรุดเยี่ยมให้กำลังใจญาติพร้อมดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนแล้ว
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ออกมาแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 7C 2216 เดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปชอลลานัมโด สาธารณรัฐเกาหลี ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอด เนื่องจากล้อของเครื่องบินไม่กางทำให้ตัวเครื่องบินไถลไปตามรันเวย์ เครื่องบินไฟไหม้ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่นประมาณ 09.07 น. ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมได้รับรายงานจาก นางศิริรัตน์ ศรีชาติ ผู้ช่วยทูตฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ว่าสายการบินดังกล่าวบรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 181 ราย เป็นผู้โดยสาร 175 ราย และลูกเรือ  6 ราย กระทรวงการต่างประเทศยืนยันมีผู้เสียชีวิต 179 ราย ในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นคนไทย 2 รายที่เสียชีวิต รายแรก คือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี เป็นชาว จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ทายาทมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 109,751.28 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบ และค่าจัดการศพ 50,000 บาท โดยสำนักงานประกันสังคม จ.อุดรธานี จะอำนวยความสะดวกให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ต่อไป และรายที่ 2 น.ส.ศิริธร จะอือ อายุ 22 ปี ชาว จ.เชียงราย ไม่เป็นผู้ประกันตน 
.
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ผมและผู้บริหารกระทรวงแรงงานขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกท่าน ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมได้รับรายงานจากนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ว่าหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน หรือ 5 เสือแรงงานได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวคนไทยที่เสียชีวิตแล้ว พร้อมอำนวยความสะดวกให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ต่อไป
 .
"ผมและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานทุกคน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์เครื่องบินเจจูแอร์ ไถลชนผนังรั้วรันเวย์ สนามบินนานาชาติมวน จอลลานัมโด เกาหลีใต้ ที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับผู้สูญเสียทุกคน กระทรวงแรงงานจะดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนอย่างดีที่สุด" นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ผมได้ขานรับข้อสั่งการท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานความช่วยเหลือกับสถานทูตในการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาตามความประสงค์ของญาติ ขณะที่การดำเนินการในประเทศไทย ผมได้รับรายงานจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดอุดรธานีว่า 
เมื่อวานนี้ (29 ธ.ค. 67) 5 เสือแรงงานจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่พร้อมกับคณะของนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบิดาและญาติของ นางสาวจงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ที่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ที่ 6 ตำบลกุดหมากไฟ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของนางสาวจงลักษ์ ดวงมณี ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ปรากฎว่าไม่พบข้อมูลการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และไม่พบข้อมูลการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน ได้ให้ทูตแรงงานประสานสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติกลับมาประกอบพิธีฌาปนกิจที่ภูมิลำเนาต่อไป

สิงห์บุรี / พิธีทอดกฐินสามัคคี ณ วัดหน้าพระธาตุ รวมใจทำบุญกฐินสามัคคี สืบสานพุทธศาสนาอย่างยิ่งใหญ่

วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น. ณ วัดหน้าพระธาตุ หมู่ที่ 1 ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ได้จัดพิธี ทอดกฐินสามัคค...