หารือแนวทางการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
(6 มิถุนายน 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงยุติธรรม ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงยุติธรรม ร่วมการประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการประสานความร่วมมือด้านงานยุติธรรม ระหว่างกระทรวงยุติธรรม โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 10 – 01 กระทรวงยุติธรรม
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในอดีต ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ที่ติดยาเสพติดจะถูกคุมขังในเรือนจำ ที่ส่วนใหญ่สามารถเลิกยาได้เนื่องจากมีการหยุดเสพแบบหักดิบ แต่เมื่อพ้นโทษแล้วกลับไปหวนคืนการเสพ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รับการบำบัดฟื้นฟูอย่างแท้จริง ทำให้การประชุมครั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมต้องการหาแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติด ผ่านการบังคับใช้กฎหมายประมวลยาเสพติดที่มีช่องทางในการให้กรุงเทพมหานคร จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสถานภาพทางสังคมฯ เข้าดำเนินการกับผู้ติดยาเสพติด และผู้ผ่านการบำบัด ฟื้นฟู ผ่านการปรับพฤตินิสัย การฝึกอาชีพ การศึกษา การจัดสวัสดิการ และการสนับสนุนต่างๆ ที่จำเป็นจนพวกเขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างยั่งยืน เชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่สามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ กรุงเทพมหานครจะเป็นฐานในการแก้ไขปัญหาฯ จากทฤษฎีผู้เสพ คือ ผู้ป่วย เพื่อให้คนมีสุขภาพดี ให้พวกเขาไปหาหมอ แต่การบังคับใช้กฎหมายประมวลยาเสพติด ตั้งแต่ปี 2564 กลับพบจำนวนมากของผู้ป่วยติดยาเสพติด ที่จะสมัครใจไปหาหมอเพื่อเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู จนกลายเป็นปัญหาสังคม
“การประชุมนี้เป็นการติดตามผลการการปฏิบัติงานใน พื้นที่เร่งด่วน 25 จังหวัด นายกรัฐมนตรีได้รวบรวมปัญหาและยกระดับไว้ และในช่วง 90 วันนี้ ขอให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร กรมการปกครองช่วยเข้ามาดูแล ร่วมกัน ในเรื่องสำคัญในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด และต้องไม่ละเลยในเรื่องสถานบำบัดฟื้นฟู เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในจังหวัดที่มีปัญหายาเสพติดที่เป็นจังหวัดเป้าหมาย เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ท้าทาย และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการแก้ไข” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
ทางด้าน รองศาสตราจารย์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แสดงความยินดี และชื่นชมกับการจัดประชุมเพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่จะเข้าร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกัน ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน จนอาจไม่ได้รับความร่วมมือ ไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเกรงอันตรายจากผู้มีอิทธิพล ซึ่งการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องให้ความปลอดภัยด้วย
ทางด้าน นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “นี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีของความร่วมมือกันระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานระดับพื้นที่ อย่างกรุงเทพมหานคร และขอขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ให้ความสำคัญ ความร่วมมือกันกันอย่างใกล้ชิด และจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน 3 เดือน สามารถขับเคลื่อนและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนไปข้างหน้าด้วยกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมร่วมกันมีมติ ดังนี้
กระทรวงยุติธรรมขอความร่วมมือกรุงเทพมหานคร จัดตั้งค่ายบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่แต่ละเขต และขอความร่วมมือตรวจสอบพิสูจน์บุคคลไร้สัญชาติ เพื่อดำเนินการออกหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และทางกรมราชทัณฑ์เสนอการนำผู้ต้องขังเข้าร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มเติมจากเดิมด้วย ในส่วนกรมบังคับคดีเสนอนำทรัพย์ที่ขายทอดตลาดไม่ได้ในพื้นที่ กทม. เช่น ตึกร้าง คอนโดร้าง มาพัฒนาเป็นที่พักราคาถูก ให้แก่ first jobber หรือผู้ที่ต้องการ เพื่อช่วยลดปัญหาการบุกรุกพื้นที่เพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย และในส่วนของกรมคุมประพฤติ นำผู้เสพที่ศาลสั่งให้เข้ารับการบำบัดรักษาเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
โดยทาง กรุงเทพมหานคร เสนอกระทรวงยุติธรรม สำหรับผู้บำบัดยาเสพติด เพิ่มทางเลือกในการฝึกอาชีพให้ หรือ นำผู้บำบัดมาเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ และการขอรับการสนับสนุนการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดแบบ matrix model (จิตสังคมบำบัด) สำหรับการพัฒนาที่พักราคาถูกทาง กทม. มีความยินดีที่จะหารือในส่วนที่เกี่ยวข้อง เห็นถึงศักยภาพในการนำมาทำเป็นที่พักสวัสดิการด้วย
No comments:
Post a Comment