Tuesday, December 17, 2024

พิษณุโลก จับหลานแท้ๆ ทำตัวเป็น”โจรมุมตึก” ชิงสร้อยพระเลี่ยมทอง 3 บาท ป้าวัย 71 ปี

แถมผลักและบีบคอ ก่อนขึ้นรถตู้ทึบ หลังก่อเหตุนำทองไปขายได้เงิน 5,000 บาท แถมยังมาแบ่งเพื่อนอีก 
วันนี้ (17 ธันวาคม 2567) พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.ท.วรการ กาศเกษม รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์  สุดหอม สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก สั่งการให้ชุดสืบสวนถือหมายค้นศาลจังหวัดพิษณุโลก ลุยตรวจค้นรุ่งเช้า บริเวณบ้านพักนายองอาจ (ขอสงวนนามสกุล) ขณะนอนพักอาศัยภายในบ้าน หลังจากตำรวจสืบสวนและไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์และหลบหนี กระทั่งทราบชื่อว่า นายองอาจ (สงวนนามสกุล)อายุ 31 ปี  เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ น่าจะหลบหนีไปที่บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ที่ 1 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก 
โดยเหตุเกิดค่ำคืน 11 ธันวาคม 2567  นางสุมาลี ชมภู อายุ 71 ปี  (ผู้เสียหาย) กำลังเดินทางกลับจากขายของเพื่อจะเข้าบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านราชประชารัฐ หมู่ 3 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีบุคคลเป็นเพศชายไม่ทราบชื่อ นามสกุล ลักษณะผอม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกปิดบัง ใบหน้า พุ่งออกมาจากมุมมืดบริเวณข้างทางซึ่งกำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้าน คนร้ายยืนขวางหน้ารถและใช้มือผลักยันจักรยานยนต์ของนางสุมาลี จากนั้นคนร้ายได้ใช้มือดันและบีบบริเวณคอ พร้อมทั้งใช้มืออีกข้างกระชาก สร้อยทองคำหนัก 3 บาท ผู้เสียหายจึงได้พยายามฉุดกระชากไม่ให้คนร้ายได้ทรัพย์สินไป พร้อมทั้งร้องให้คนช่วยเหลือ คนร้ายจึงได้วิ่งหลบหนีขึ้นรถตู้ทึบ จอดห่างจากมุมตำ 2-3 เมตร โดยนางสุมาลี ไม่สามารถจดจำหมายเลขทะเบียนและหมวดอักษรของรถคันดังกล่าวได้ ทราบเพียงมุ่งหน้าเข้าไปในหมู่บ้านนิคมบ้านกร่าง
คดีดังกล่าว เป็นคดีอุกฉกรรจ์เป็นคดีที่สนใจ ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ ชุมชน ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.นิคม  เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก, พ.ต.อ.จาตุรนต์ บุษปะเกษ รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ให้เร่งรัด สืบสวน หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว 
กระทั่งสามารถจับกุม นายองอาจ (ขอสงวนนามสกุล) ได้ในที่สุด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุร่วมกับนายรุ่ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของผู้เสียหาย คือ นางสุมาลี ชมพู วัย 71 ปี สาเหตุที่กระทำลงไปเนื่องจาก โกรธแค้นผู้เสียหายที่ชอบดุด่าและพูดจากดูถูก จึงลงมือก่อเหตุ และให้การอีกว่า หลังก่อเหตุได้นำทองไปขายได้เงินประมาณ 5,000 บาท จากนั้นมาแบ่งทั้ง 2 คน 
ต่อมาจนท.ตำรวจได้ตรวจค้นและยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด คือ  รถยนต์กระบะ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน 3 ฒว 7394 กทม. จำนวน 1 คัน  เสื้อยืดคอปกสีเขียวและเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาลใช้ปกปิดใบหน้า, กางเกง, รองเท้าแตะ,โทรศัพท์มือถือ และเงินสดคงเหลือ 2 พันบาทซุกอยู่ภายกล่องภายในรถยนต์กระบะพร้อมนำตัวนายอาจและนายรุ่ง ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
//ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว//

No comments:

Post a Comment

ผอ.เฉลิมขวัญสตรี นำคณาจารย์ สวัสดีปีใหม่ 2569 สมาคมสื่อสารมวลชนพิษณุโลก

วันที่ 23 ธันวาคม 2569 เวลา 11.00 น. ดร.ปิยะชัย ภู่จันทร์ดิฐกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโล นำคณาจารย์ สวัสด...