Tuesday, July 22, 2025

ชลบุรี สองสาวร้องสื่อถูกรุมยำ-ข่มขู่ คดีไม่คืบ

ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายสองรายคือ นางจุฑามาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี และนางสาวสาวิตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี นำหลักฐานสำคัญเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดและคลิปวิดีโอจากประชาชน มายื่นต่อสื่อมวลชนหลังคดีไม่คืบหน้าแม้จะมีภาพชัดเจนว่าถูกทำร้าย และตามชายฉกรรจ์ลักษณะคล้ายพกอาวุธปืน พร้อมทั้งมีการข่มขู่และประกาศท้าทายกฎหมายอย่างอุกอาจ
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในพื้นที่ร้านบาร์แห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดบุญกาญจนาราม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเริ่มจากคืนวันที่ 13 มิถุนายน เวลาประมาณ 23.00 น. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่า หลังมีปากเสียงบริเวณหน้าตลาด ฝ่ายคู่กรณีได้โทรเรียกพรรคพวก ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายสวมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์สีส้ม ขับรถจักรยานยนต์พีซีเอ็กซ์สีเทา มาจอดด้านหน้ากล้องวงจรปิดของคอนโดแห่งหนึ่ง ก่อนจะถอดเสื้อวิน ใส่ไว้ใต้เบาะ และหยิบสิ่งของลักษณะคล้ายอาวุธปืนขึ้นลำเหน็บเอวแล้วเดินเข้าไปในวงเหตุการณ์ โดยมีกลุ่มหญิงไทยสวมเสื้อดำ ฝั่งผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาพูดคุยด้วย
นางจุฑามาศ (ผู้เสียหาย) ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงนั้นพี่สาวของตนมีปากเสียงกับคู่กรณี ตนเข้าไปห้ามปราม แต่กลับถูกอีกฝ่ายไม่พอใจ โทรตามคนมาเสริม จนสถานการณ์เริ่มบานปลาย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามา คิดว่าจะจบไปแล้ว ต่อมา วันที่ 16 มิถุนายน เวลาประมาณ 20.40 น. กล้องวงจรปิดจับภาพหญิงไทย 3 คน เดินเข้ามาหาผู้เสียหายที่ร้านเดิม โดยมีหญิงผู้ก่อเหตุ เดินตามมาทีหลัง ก่อนจะพูดจาท้าทาย แล้วลงมือกระชากผมนางสาวสาวิตรีผู้เสียหายอีกรายจากเก้าอี้ ลากและทำร้ายหน้าร้าน ทั้งยังมีชายขับวินฯ ที่มากับกลุ่มผู้ก่อเหตุยืนกันไม่ให้ใครเข้าไปช่วย ทำให้ผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายโดยไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย
นางสาวสาวิตรีให้การว่า เธอเพียงแค่นั่งอยู่ในร้าน ไม่รู้เรื่องราวมาก่อน ถูกกลุ่มหญิงเข้ามาหาเรื่อง โดยกล่าวหาว่าเธอรู้เห็นกับนางจุฑามาศ และกล่าวหาว่าเคยด่ากันมาก่อน จากนั้นก็ลงมือทันที โดยระหว่างเหตุการณ์ยังพูดท้าทายเสียงดัง “กฎหมายทำอะไรกูก็ไม่ได้!” สร้างความหวาดกลัวให้กับคนในร้านอย่างมาก เธอยังเล่าด้วยว่า ถูกกัดที่ราวหน้าอกจนเป็นรอยฟกช้ำ และมีแผลถลอกหลายจุด
แม้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการเรียกตัวคู่กรณีมาสอบสวนตามที่แจ้งไว้ ผู้เสียหายพยายามติดตามคดีด้วยตนเอง แต่กลับถูกโยนให้ไปติดต่อร้อยเวรเอง ไม่มีเจ้าหน้าที่ใดรับผิดชอบอย่างชัดเจน ที่ร้ายไปกว่านั้น ผู้เสียหายยังระบุว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีการโพสต์เฟซบุ๊กข่มขู่ท้าทายต่อเนื่อง ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัย หวั่นจะถูกทำร้ายซ้ำ หรือถึงขั้นเสียชีวิต
ผู้เสียหายทั้งสองจึงต้องออกมาร้องต่อสื่อมวลชน เพื่อเป็นกระบอกเสียง หลังแจ้งตำรวจแล้วคดีเงียบ หวั่นถูกจัดฉากอีกครั้งโดยผู้มีอิทธิพลที่สามารถเคลื่อนไหวได้เสรี ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน ทั้งคลิปวงจรปิดและพยานแวดล้อม ถ้าไม่มีสื่อ ไม่มีใครรู้เลยว่าเราถูกทำร้าย ถูกข่มขู่ และกฎหมายไม่สามารถปกป้องเราได้ โดยผู้เสียหายวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจพัทยา เร่งดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มี และให้ความเป็นธรรมด้วย
//เก่ง ณ สงขลา รายงาน//

No comments:

Post a Comment

จังหวัดกาญจนบุรี แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ “สุทัศน์ เดชคำ (มุ้ย)” ยึดทรัพย์รวมกว่า 408 ล้านบาท

                  วันนี้ (22 กรกฎาคม 2568) ณ จังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นำแถลงผลการปฏิบ...