การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นเจ้าภาพจัดกีฬารัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สมานฉันท์ สามัคคี ต้านยาเสพติด

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 ณ. มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเพชรบูรณ์ นายศรัญยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดงาน กีฬารัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สมานฉันท์ สามัคคี ต้านยาเสพติด ประจำปี 2568 โดยมี นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตสมาชิกวุฒิสภา พ.อ.สาธิต ไวยยานนท์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 นายประทิน นาคสำราญ นายก อบต.สะเดียง พร้อมแขกผู้มีเกียรติ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นักกีฬา พนักงาน และลูกจ้างเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง

ว่าที่ ร.ต.เสกสรร ปานถม ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเพชรบูรณ์ ในฐานะประธานชมรมรัฐวิสาหกิจจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กล่าวขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะที่ปรึกษาที่ให้เกียรติมาร่วมเปิดงาน พร้อมย้ำว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้บริหาร นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนด้านการกีฬา ความสมานฉันท์ และการต้านยาเสพติดอย่างแท้จริง

หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วม (14 หน่วยงาน)

1. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

2. การประปาส่วนภูมิภาค

3. ไปรษณีย์จังหวัดเพชรบูรณ์

4. ธ.ก.ส.

5. สำนักงานยาสูบ

6. บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

7. ธนาคารออมสินเขตเพชรบูรณ์

8. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาเพชรบูรณ์

9. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Bank)

10. บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

11. สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเพชรบูรณ์

12. สำนักงานเคหะจังหวัดเพชรบูรณ์

13. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเพชรบูรณ์

14. สำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์

โดยแบ่งออกเป็น 2 สี ได้แก่ สีเหลือง –เขียว (7 หน่วยงาน) สีชมพู–ฟ้า (7 หน่วยงาน) วัตถุประสงค์ของการจัดงาน ส่งเสริมสุขภาพพลานามัย และต้านภัยยาเสพติด พัฒนาความสามารถและทักษะด้านกีฬา

ปลูกฝังน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ คำขวัญประจำงาน: “เหนือรู้แพ้ รู้ชนะ คือ รู้จักกัน”

ประเภทกีฬาที่แข่งขัน ฟุตบอลชาย 11 คน แชร์บอลหญิง 7 คน กีฬามหาสนุก 3 ประเภท บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยความสามัคคี และหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ได้มีการจัดเลี้ยงรับรอง พร้อมมอบถ้วยรางวัลแก่ทีมชนะเลิศในแต่ละประเภท

//นที บุญรอด รายงาน//

ปตท.สผ. สนับสนุนศูนย์ ASA Cloud ขับเคลื่อนการอนุรักษ์ย่านเมืองเก่าสงขลา

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีเปิด ศูนย์ทำงานอนุรักษ์อาษาคลาวด์ (ASA Cloud) และงาน ASA Cloud Open House 2025 โดยมี นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

ศูนย์ ASA Cloud เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) และ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (ปตท.สผ.อีดี) ภายใต้โครงการ “สงขลาสู่มรดกโลก” ด้วยงบประมาณรวมกว่า 1.14 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงอาคารให้เป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์และพัฒนาเมือง โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าสงขลา

ในพิธีเปิด นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความสำคัญของศูนย์ฯ ว่า “ศูนย์อาษาคลาวด์แห่งนี้ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และการแบ่งปันองค์ความรู้ด้านสถาปัตยกรรม โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของนักวิชาชีพ เยาวชน และประชาชน เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ยั่งยืน”

ด้าน นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานในพิธีกล่าวเสริมว่า “ศูนย์อาษาคลาวด์เป็นอีกก้าวสำคัญในการเก็บรักษาอัตลักษณ์ของเมืองและความทรงจำร่วม ควบคู่กับการพัฒนาเชิงวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งจะช่วยต่อยอดการอนุรักษ์เมืองสงขลาให้ยั่งยืนในระยะยาว”

นายก อบจ.สงขลา เดินหน้านโยบายปะการังเทียม สร้างความมั่นคงทางอาชีพและสิ่งแวดล้อมทางทะเล

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย การสร้างแนวปะการังเทียม อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล เพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนประมงชายฝั่งในจังหวัดสงขลา

โครงการดังกล่าวตั้งเป้าจัดสร้างปะการังเทียมจำนวน 4 กอง กองละ 1,250 ก้อน รวมใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท พร้อมทั้งวางมาตรการบำรุงรักษาและทำความสะอาดปีละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรในระยะยาว

นายสุพิศ เน้นย้ำว่า การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน ถือเป็นภารกิจสำคัญของ อบจ.สงขลา การดำเนินโครงการปะการังเทียมไม่เพียงช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล แต่ยังช่วยสร้างรายได้ กระจายผลประโยชน์ไปสู่ชาวประมงชายฝั่ง และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

อบจ.สงขลามุ่งหวังให้โครงการนี้เป็นต้นแบบการพัฒนาทรัพยากรทางทะเลในระดับท้องถิ่น ที่สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ธรรมชาติและการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดได้อย่างมั่นคง

สพป.สิงห์บุรี จัดยิ่งใหญ่นิทรรศการ “นวัตวิถี SS2P สิงห์บุรีสืบสาน ส่งเสริมนักเรียนสร้างสรรค์”

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 น. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสิงห์บุรี (สพป.สิงห์บุรี) จัดงานนิทรรศการ “นวัตวิถี SS2P สิงห์บุรีสืบสาน ส่งเสริมนักเรียนสร้างสรรค์” ณ ห้องจัดเลี้ยงจุฑามาศ ภัตตาคารไพบูลย์ ไก่ย่าง โดยมี ดร.เกตุชญา วงษ์เพิก ผู้อำนวยการ สพป.สิงห์บุรี เป็นประธานเปิดงาน

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู บุคลากร และสถานศึกษาในสังกัด ที่สอดคล้องกับนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมศักยภาพผู้เรียน และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล

ภายในงานมีการจัดบูทนิทรรศการรวม 20 บูท จากทั้ง 12 กลุ่มโรงเรียน ที่นำเสนอนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติจริง อาทิ กลุ่มสิงห์เจ้าพระยา ส่งเสริม Soft Power เพื่อพัฒนาทักษะผู้เรียน

กลุ่มพระนอน โชว์ “คีตะมวยไทย”

กลุ่มปัญจมิตร แนวคิด “Learn to Earn” การเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้

กลุ่มพรหมพัฒนา ขับเคลื่อน Active Learning, STEM Education และ Coding

กลุ่มบางระจัน พัฒนาความรู้ด้านการเงินและการออม (Financial Literacy)

กลุ่มท่าช้าง ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับการเรียนรู้ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมี บูทจาก 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้, นิทรรศการปฐมวัย และศูนย์แนะแนวจังหวัดสิงห์บุรี มาร่วมเติมเต็มบรรยากาศแห่งการเรียนรู้

งานครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 340 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันและความคิดสร้างสรรค์ สะท้อนพลังความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาของจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อเตรียมผู้เรียนสู่การเป็นพลเมืองคุณภาพแห่งศตวรรษที่ 21

ภาพ - ข่าว : สรวัชร สรรเพ็ชร์ ทีมข่าวจังหวัดสิงห์บุรี // รายงาน

พิษณุโลก คืบหน้าอุบัติเหตุหมู่ รถรับส่งนักนักศึกษา ม.การกีฬาฯ วิทยาเขตศรีสะเกษ ชนกับรถบรรทุกน้ำมัน

ไม่คุ้นชินเส้นทาง/ใช้ระบบ GPS นำ ซึ่งไม่ใช่ถนนสายหลัก แสงสว่างไม่เพียงพอ ล่าสุด นศ.วัย 19 นั่งหน้าพร้อมคนขับดับ 2 ราย ส่วนบาดเจ็บอีก 8 คน

วันนี้ (29 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ารถรับส่งนักกีฬา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ ชนรถบรรทุกน้ำมัน แยกป่าสัก บ้านป่าสัก ม.6 ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ

1.นายวิรชัย จันทร์เติบ อายุ 21 ปี นศ.การกีฬา

2.นายธนธรณ์ จิตรมาลา อายุ 21 ปี นศ.การกีฬา

3.นายธนธรณ์ จิตรมาลา อายุ 21 ปี นศ.การกีฬา

4.นายธนธรณ์ จิตรมาลา อายุ 21 ปี นศ.การกีฬา

5.นายชนะพงศ์ นอกพล อายุ 20 ปี นศ.การกีฬา

6.นายณัฐวัฒน์ นาทองคำ อายุ 18 ปี นศ.การกีฬา

7.นายอมรเทพ บัวจูม อายุ 18 ปี นศ.การกีฬา

8.นายธฤต คำชู อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมัน

เสียชีวิต

1.นายภูมน สมนึก อายุ 19 ปี นศ.ม.การกีฬาฯ ศรีสะเกษ  ภูมิลำเนาคลองหลวง จ.ปทุมธานี (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)

2.นายภัลลภ เปรมนอก อายุ 59 ปี คนขับรถ ม.การกีฬาฯ ศรีสะเกษ (เสียชีวิต ที่ รพ.บางระกำ)

ที่เกิดเหตุ มินิบัส6ล้อ ชนประสานงารถน้ำมัน ทราบว่า น้องผู้เสียชีวิต 1รายอายุ19ปี นั่งหน้ารถมินิบัสร่วมกับคนขับที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลนั้น เตรียมไปแข่งขันกีฬาที่ จ.สุโขทัย โดยใช้รถมินิบัสจากมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ แต่ไม่คุ้นชินเส้นทางและจึงใช้ระบบนำทางด้วยระบบ GPS ซึ่งไม่ใช่ทางหลักที่เข้าสุโขทัย เป็นถนนรอง วิ่งผ่านอำเภอต่างๆ ไม่แสงสว่างเพียงพอ กระทั่งถึงทางร่วมแยก ป่าสัก เขต ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ  จึงเกิดเหตุสลดดังกล่าว

เพจตามสื่อต่างๆ อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องภูมน สมนึก ที่ลาจากไปเพียงวัย19 ปี นักตะกร้อ ม.กีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตศรีสะเกษ ประสบอุบัติเหตุ บริเวณแยกป่าสัก ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

ระหว่างเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 "พลศึกษาเกมส์" ในช่วงระหว่างวันที่ 1-10 กันยายน 2568 ณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย

//ป๊อกกองปราบ ภาพ-ข่าว//

พิษณุโลก รักษาการเจ้าคณะจังหวัด ประชุมเรื่องร้องเรียนอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองมะคัง

วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น.ที่ศาลา 100 ปี วัดคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พระรัตนโมลี (ไพรินทร์ ทนฺตจิตโต) รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ เป็นประธานการประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนพระครูสุภกิจชยาภรณ์ อดีตเเจ้าอาวาสวัดหนองมะคัง ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ปัจจุบันย้ายไปจำพรรษาวัดในพื้นที่ตำบลหอกลอง อำเภอพรพรหมพิราม 

โดยมีพระครูศรีรัตคนาธร เลขานุการรักษาการ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองมะคัง และประชาชนทั้งฝ่ายร้องเรียนและผู้สนับสนุน เข้าร่วมประชุมให้ข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการสอบสวนอีกด้วย ซึ่งใช้เวลา 3 ชั่วโมง ในการดำเนินการสอบสวน จนได้ข้อยุติว่า อดีตเจ้าอาวาสหนองมะคัง จะมอบปัจจัยเป็นเงิน 1,000,000 บาท ให้กับวัดหนองมะคัง เพื่อเป็นกองทุนในการบริหารจัดการวัดต่อไป

นายสมชาติ รุ่งเรือง ชาวบ้านหนองมะคัง ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า เขาจะเอาผิดให้ได้ ข้อหาอะไรก็ไม่มี เรื่องสีกาท่านก็ไม่เคยมี หลักฐานเวลาจะทำอะไรหรือสร้างอะไรท่านก็เรี่ยไรทีละแสนสองแสนตลอด แล้วก็จ้างช่างซึ่งก็เป็นชาวบ้านทำ อย่างจ้าง 5 หมื่น ท่านก็ให้เงินมาโดยไม่มีใบเสร็จแต่ชาวบ้านก็รับรู้มาโดยตลอด ส่วนผู้ร้องก็เป็นชาวบ้านที่เคยอยู่หมู่บ้านนี้แหละที่มาทำบุญทอดกฐิน 2 ล้าน แล้วมาว่าวัดไม่ได้สร้างโบสถ์ 2 ล้าน จะมาขอดูใบเสร็จทุกอย่าง เขาถามเงินเอาไปไหนหมด ซึ่งจริงๆแล้วเงินเพิ่งได้มาเมื่อปีที่แล้ว วัดก็นำมาบูรณะวัดสร้างโบสถ์ ในส่วนของการสร้างโบสถ์ผู้รับเหมาก็รับเหมาตัดไปแล้ว 1 ล้านแปดแสน ซึ่งผู้รับเหมาก็มาด้วยในวันนี้

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พระครูศรีรัตคนาธร เลขานุการรักษาการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า กรณีพิพาทวัดหนองมะคีง ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทั้งสองฝ่ายสมัครใจยุติลงเพราะความเป็นญาติพี่น้อง และมีความเคลือบแคลงสงสัยในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดีตรวจสอบเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานโดยตำแหน่งหน้าที่ ได้อรรถาธิบายชี้แจงจนยุติลงได้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขออนุโมทนาขอบคุณทุกด้านที่ให้ความสนใจ และท่านพระรัตนโมลี รักษาการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้แถลงทุกสิ่งให้ทราบในที่ประชุม

นราธิวาส ผู้บาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิด พ้นขีดอัตรายแล้ว ด้าน ศอ.บต. เร่งช่วยเหลือเยียวยาเร็วที่สุด

วันนี้ (29 สิงหาคม 2568) ที่ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นายแพทย์ สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา ศอ.บต. และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดนราธิวาส / อำเภอ เข้าเยี่ยม นายอาซือมิง อาแซ อายุ 53 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายได้วางไว้ บริเวณเหมืองแร่ หมู่ที่ 3 บ้านไอร์ซือเร๊ะ ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าขาขวาขาด ขาข้างซ้าย และแขนข้างขวาเป็นแผลฉีกขาด แพทย์ได้ทำการผ่าตัดใต้เข่าขาข้างขวา และตกแต่งบาดแผลเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ผู้บาดเจ็บ รู้สึกตัวและพ้นขีดอันตราย 

ในการนี้ นายแพทย์ สมหมาย บุญเกลี้ยง ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้พูดคุยให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมในนาม เลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงสิทธิการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบฯ รับทราบ และจะเร่งดำเนินให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัว เนื่องจากนายอาซือมิง อาแซ เป็นเสาหลักของครอบครัว ในการหารายได้ 

สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปตามเอกสารรับรองของแพทย์ที่ระบุไว้ และจะได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดต่อไป