วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 น.ที่ศาลา 100 ปี วัดคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พระรัตนโมลี (ไพรินทร์ ทนฺตจิตโต) รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ เป็นประธานการประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนพระครูสุภกิจชยาภรณ์ อดีตเเจ้าอาวาสวัดหนองมะคัง ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ปัจจุบันย้ายไปจำพรรษาวัดในพื้นที่ตำบลหอกลอง อำเภอพรพรหมพิราม
นายสมชาติ รุ่งเรือง ชาวบ้านหนองมะคัง ต.ทับยายเชียง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า เขาจะเอาผิดให้ได้ ข้อหาอะไรก็ไม่มี เรื่องสีกาท่านก็ไม่เคยมี หลักฐานเวลาจะทำอะไรหรือสร้างอะไรท่านก็เรี่ยไรทีละแสนสองแสนตลอด แล้วก็จ้างช่างซึ่งก็เป็นชาวบ้านทำ อย่างจ้าง 5 หมื่น ท่านก็ให้เงินมาโดยไม่มีใบเสร็จแต่ชาวบ้านก็รับรู้มาโดยตลอด ส่วนผู้ร้องก็เป็นชาวบ้านที่เคยอยู่หมู่บ้านนี้แหละที่มาทำบุญทอดกฐิน 2 ล้าน แล้วมาว่าวัดไม่ได้สร้างโบสถ์ 2 ล้าน จะมาขอดูใบเสร็จทุกอย่าง เขาถามเงินเอาไปไหนหมด ซึ่งจริงๆแล้วเงินเพิ่งได้มาเมื่อปีที่แล้ว วัดก็นำมาบูรณะวัดสร้างโบสถ์ ในส่วนของการสร้างโบสถ์ผู้รับเหมาก็รับเหมาตัดไปแล้ว 1 ล้านแปดแสน ซึ่งผู้รับเหมาก็มาด้วยในวันนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พระครูศรีรัตคนาธร เลขานุการรักษาการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า กรณีพิพาทวัดหนองมะคีง ผู้ร้องและผู้ถูกร้องทั้งสองฝ่ายสมัครใจยุติลงเพราะความเป็นญาติพี่น้อง และมีความเคลือบแคลงสงสัยในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดีตรวจสอบเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานโดยตำแหน่งหน้าที่ ได้อรรถาธิบายชี้แจงจนยุติลงได้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขออนุโมทนาขอบคุณทุกด้านที่ให้ความสนใจ และท่านพระรัตนโมลี รักษาการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ได้แถลงทุกสิ่งให้ทราบในที่ประชุม
No comments:
Post a Comment