วันนี้ 4 พ.ย. 68 ร้อยเอกสมจิตร ฉ่ำมา  อดีตสมาชิก.อบจ.พิษณุโลกสมจิตรพร้อมกลุ่มชาวบ้านเดินทางมาที่ว่าการอำเภอวังทอง เพื่อให้นายอำ เภอฯ แก้ปัญหาที่ดินเขาสมอแคลงที่รื้อรังมาหลายสิบปี เรียกร้องมา 3 ผู้ว่ากับ 4 นายอำเภอแล้ว วันนี้จะมาขอคำตอบจากนายอำเภอวังทองอีกครั้ง อยากรู้ว่า ผืนที่ดินเขาสมอแคลงนั้น ชาวบ้านบุกรุกหรือจนท.รัฐ ทำการรังวัด กลั่นแกล้งชาวบ้านหรือไม่  
ทั้งนี้ที่ดินดังกล่าวรัฐระบุว่าเป็นทุ่งสาธารณประโยชน์ ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่ 2,000 ครัวเรือนเศษ เฉพาะหมู่ 8 ต.วังทอง มีประชากร 1,600 ครัวเรือน หมู่  11 ต.วังทอง มีประชากร 700 ครัวเรือน 
ต่อมา นายอำเภอวังทองได้พาตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดดังกล่าวขึ้นไปเจรจาที่ห้องประชุมชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอวังทอง 
นายชาญชัย คมานิคม นายอำเภอ กล่าวว่า เขาสมอแคลงมีปัญหาสะสมมานาน ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาตัดสินไปแล้ว  ออกเอกสารหนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) ออกเมื่อปี พ.ศ.2506-2508 โดยชอบด้วยกฏหมายแล้ว ทั้ง 3,960 ไร่เศษ แต่วันนี้ อยากเห็นหลักฐานใหม่ เอกสารที่ไม่เคยหยิบยกในการต่อสู้ หากมีหลักฐานใหม่ ตนยินดี จะนำเสนอ พร้อมรายงานไปยังจังหวัดฯ เพื่อให้คณะกรรมการพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินของรัฐ(คพร.) เปิดประชุมทันที  
ร้อยเอกสมจิตร ฉ่ำมา กล่าวว่า วันนี้พอมีหลักฐานนำมาประกอบให้เจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการระดับอำเภอ นำไปสู่การโต้แย้ง และชี้แจงต่อคณะ คณะกรรมพิสูจน์สิทธิ์ฯ (คพร.) ระดับจังหวัด เพื่อให้มีการจัดประชุม ทั้งนี้นายอำเภอได้แนะนำว่า ชี้จุดให้ชัดเจนว่า บริเวณใด ถูกบุกรุกหรือทับที่ดินราชการ ทำให้รู้ว่าที่ดินของประชาชนรายใด ไม่ได้อยู่ในประกาศของทางราชการ การพูดคุยกับนายอำเภอวังทอง ถือว่า มีแนวทางที่ดีขึ้น ทางอำเภอฯเตรียมสรุปภาพรวม เพื่อให้ทาง คพร.จังหวัดเปิดประชุมเร็วๆนี้
ชาวบ้านต้องให้ ยกเลิก หรือปรับปรุงแก้ไขประกาศอำเภอวังทอง ฉบับที่ 2020/2508  ตำบลวังทอง เพื่อคืนสิทธิ์กลับคืนมา  ที่ผ่านมา ภาครัฐยึดคำเดียวว่า บุกรุก ทั้งๆที่ ผู้ร้อง มี เอกสาร สค.1 ปรากฏอยู่ พ.ศ.2496  แต่ศาลปกครอง เชื่อเจ้าพนักงานที่ดินมากกว่า  ไม่สนหลักฐานของชาวบ้าน
ปี 2506 จังหวัดให้มีการสำรวจรังวัดที่ดินเพื่อออกคำสั่งประกาศของอำเภอวังทอง 2020/2508 ซึ่งช่วงนั้น เจ้าหน้าที่ทำการรังวัดภูเขาสมอแคลงโดยควบรวมชุมชนบ้านเขาสมอแคลงเข้าไปด้วย หวั่นว่า เป็นเจตนากลั่นแกล้ง ซ่อนเร้นหรือมองไม่เห็นกลุ่มชาวบ้านหรือไม่  ตนจะไปแสดงต่ออนุกรรมการของอำเภอวังทอง ว่า พื้นที่เขาสมอแคลงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประกาศของอำเภอวังทอง จะต่อสู้ว่า ราษฎรไม่ได้อยู่ในประกาศ 2470 และ ปี 2508 ที่ออกประกาศของอำเภอวังทอง เพราะชาวบ้านอยู่ก่อนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ภาครัฐยืนยันเขาสมอแคลงเป็นที่หลวง จึงแก้ไขโดยจัดโครงการจัดที่ดินชุมชน ให้ 3 หมู่บ้าน ทำการรังวัดออกแนวเขต จ่ายค่าเช่าแก่รัฐ ต่อสัญญาแต่ละคน มีประชาชนหมู่ที่ 8 ,11 ต.วังทองเข้าร่วมแล้วมากกว่า 533 ราย 630 แปลง ยกเว้นราษฎรเกือบ 1,000 คนที่บ้านเสือลากหาง หมู่ที่ 9 ต.วังทอง ยังมีความคิดเห็นขัดแย้งว่า ควรจะได้รับเอกสารสิทธิ์  แม้ว่าปี 2508 รัฐออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล.เรียบร้อยแล้ว และชาวบ้านร้องศาลปกครองให้เพิกถอนที่ นสล.แห่งนี้ แต่ศาลยกฟ้องไปแล้ว  
'ทุ่งเขาสมอแคลง' กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียนหวงห้ามไว้เป็นที่เลี้ยงสัตว์พาหนะเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2470 มีความกว้างประมาณ 30 เส้น ความยาวประมาณ 80 เส้น เนื้อที่ประมาณ 2,400 ไร่ ต่อมา พ.ศ.2485 เปลี่ยนชื่ออำเภอป่าหมากเป็นอำเภอวังทอง ปี พ.ศ.2506 รังวัดเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับหลวง (นสล.) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2506 โดยรังวัดรวมพื้นที่บริเวณเขาสมอแคลงให้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์แปลงเดียวกันเนื้อที่ 3,960 ไร่ 1งาน 23 ตารางวา 
No comments:
Post a Comment